top of page

ลดขยะที่เกิดขึ้นจากงานเอกสารด้วย Digital Technology

คุณจิรวัฒน์ อัตถกาญน์นา ( BIM Consultant )

Contact : aa.jirawat@lpn.co.th

นอกจากคอนกรีต หิน ปูน ทราย หรือวัสดุก่อสร้างอื่น ๆ แล้ว กระดาษก็ถือเป็นสิ่งจำเป็นมากที่ขาดไม่ได้ในโครงการก่อสร้าง โดยทั่วไปในโครงการก่อสร้าง มีหลายขั้นตอนที่จำเป็นต้องเกี่ยวข้องกับการใช้กระดาษ เช่น การจัดทำเอกสาร แบบก่อสร้าง ทั้งแบบขออนุญาต แบบประเมินราคา รวมถึงแบบก่อสร้างในอีกหลายขั้นตอนของโครงการ หลังจากการก่อสร้างเสร็จสิ้นแล้ว กระดาษเหล่านั้นก็ย่อมกลายเป็นขยะที่เกิดขึ้นโดยเปล่าประโยชน์ ขยะกระดาษเหล่านี้ ถือเป็นผลเสียทางสิ่งแวดล้อมเป็นอย่างยิ่ง หากย้อนไปยังกระบวนกระผลิตกระดาษ นอกจากการใช้ทรัพยากรป่าไม้เพื่อเป็นสารตั้งต้นในการผลิตกระดาษแล้ว ในกระบวนการผลิตยังมีการปล่อยก๊าซพิษต่าง ที่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม เช่น Sulphur Oxides (SOx) และ Nitrogen Oxides (NOx) ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญที่ก่อให้เกิดฝนกรด (Acid Rain) ในประเทศสหรัฐอเมริกา กว่า 20% ของผลกระทบจากการปล่อยสารพิษสู่ชั้นบรรยากาศ มาจากอุตสาหกรรมการผลิตกระดาษ

เห็นได้ว่าการใช้กระดาษที่สูญเสียไปโดยการใช้งานเพียงไม่กี่ครั้ง ส่งผลกระทบมากมายต่อสิ่งแวดล้อม ในปัจจุบันประเด็นเหล่านี้ได้กลายเป็นประเด็นที่ถูกให้ความสำคัญกว่าในอดีตเป็นอย่างมาก ดังนั้นทุกภาคส่วนสามารถเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยลดปริมาณการใช้กระดาษได้จากการเปลี่ยนแปลงกระบวนการทำงาน โดยการลดปริมาณการใช้กระดาษในกระบวนการทำงานที่เกินความจำเป็น รวมไปถึงการใช้เทคโนโลยีในการจัดทำแบบก่อสร้าง หรือการส่งต่อข้อมูลต่าง ๆ ในรูปแบบดิจิทัล


เทคโนโลยี BIM (Building Information Modeling) เป็นหนึ่งในเทคโนโลยีที่สามารถช่วยลดการใช้กระดาษในการออกแบบและก่อสร้าง โดยอยู่ในรูปแบบของ BIM Model เปลี่ยนกระบวนการทำงานจากแบบพิมพ์เขียวที่จำเป็นต้องใช้กระดาษจำนวนมากมาเป็นข้อมูลดิจิทัล ซึ่งนอกจากจะช่วยลดการใช้งานกระดาษที่เกินจำเป็นแล้ว BIM Model ยังสามารถใช้ประโยชน์ได้หลากหลายกว่าแบบก่อสร้างกระดาษแบบดั่งเดิม กล่าวคือ BIM Model ไม่ใช่เพียงแค่การทำแบบก่อสร้าง แต่ยังเป็นการจำลองอาคารจริงให้อยู่ในรูปแบบ 3 มิติ อีกทั้งยังรวบรวมข้อมูลที่จำเป็นต่อการออกแบบและก่อสร้างอยู่ใน BIM Model ผู้ใช้งานสามารถใช้ BIM Model ในการตรวจสอบข้อขัดแย้งก่อนการก่อสร้างจริง ช่วยลดข้อผิดพลาดที่จะเกิดจากการก่อสร้าง และนำข้อมูลต่าง ๆ ใน BIM Model มาใช้ในการวิเคราะห์ ประมวลผล หรือส่งต่อให้ผู้ที่เกี่ยวข้องฝ่ายอื่น ๆ ใช้ในการทำงานต่อไป ทั้งนี้ BIM Model อยู่ในรูปแบบดิจิทัลไฟล์ ทำงานบนซอฟต์แวร์คอมพิวเตอร์ และยังสามารถจัดเก็บบนระบบ Cloud ได้ BIM Model จึงเป็นเครื่องมือในการทำงานที่สามารถช่วยให้ประมาณการใช้กระดาษลดลงได้อย่างแน่นอน ปัจจุบันในกลุ่มผู้พัฒนาซอฟต์แวร์เพื่อใช้งาน BIM Model ในการออกแบบและก่อสร้าง ได้พัฒนาซอฟต์แวร์มากมายที่ตอบโจทย์การใช้งานมากขึ้น และช่วยให้บางกระบวนการสามารถเปลี่ยนการทำงานไปอยู่บนซอฟต์แวร์ได้ เช่น เปลี่ยนกระบวนการอนุมัติเอกสารต่าง ๆ เป็น Digital Workflow เพื่อสะดวกต่อการติดตามเอกสารและประหยัดการใช้งานทรัพยากรกระดาษอีกด้วย

ในปัจจุบันหลาย ๆ ประเทศส่งเสริมให้ภาครัฐและภาคเอกชนนำ Digital Technology มาปรับใช้กับกระบวนการทำงานทุกภาคส่วนขององค์กร บางประเทศถึงขึ้นออกเป็นกฎหมายบังคับใช้เลยทีเดียว เช่น ที่สิงคโปร์มีการกำหนดการส่งแบบขออนุญาตทั้งหมดเป็นดิจิทัลไฟล์ รวมถึงให้ส่ง BIM Model ด้วย ซึ่งส่งผลต่อการลดปริมาณการใช้กระดาษและลดขั้นตอนการทำงานที่เกินความจำเป็นได้อีกด้วย

16 views

Comments


Post: Blog2_Post
bottom of page